ใครที่ใช้งาน GA (Google Anaylytic) จะรู้ว่าข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้นั้นมีค่าขนาดไหน การที่เราสามารถรู้ได้ว่าผู้ใช้เข้ามาที่เว็บของเราจากทางหน้าไหน หรือใช้ function ไหนในโปรแกรมของเรามากที่สุด เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้เรารู้ข้อเท็จจริง ได้ว่าผู้ใช้ของเรามีพฤติกรรมอย่างไร และช่วยให้เราเห็นพฤติกรรมแปลกๆ ซึ่งช่วยให้เราเข้าใจ user insight หรือเห็นข้อบกพร่องของโปรแกรมได้อย่างรวดเร็ว

ผมพยายามเชื่อมโยงข้อมูลของผู้ใช้เข้ากับโปรแกรม GA แต่ก็พบว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเอาข้อมูลที่ได้มาตอบคำถามที่สงสัย เนื่องจากระบบการดึงข้อมูลของ GA นั้นยากเอาการ :’( ผมเลยชอบเจ้า Maxpanel มากๆ

segmentation

หน้าตาของระบบดึงข้อมูลของ MixPanel ทำได้ง่ายมากเพราะมาเป็นรูปภาพ ทำให้เราและทีมงานสามารถใช้งานได้โดยแทบไม่ต้องอ่านคู่มือ

อีกความสามารถที่ผมชอบคือเราสามารถส่งข้อมูลของผู้ใช้แต่ละคนไปให้กับ MixPanel ได้เพื่อให้มันช่วยติดตามพฤติกรรมของผู้ใช้แต่ละคน เช่นเราส่งข้อมูลให้ MixPanel ทุกครั้งที่มีคนสมัครสามาชิกกับเรา ว่าคนคนนี้สามัครเป็น “Business”, “Personal” หรือ “General” จากนั้นทุกครั้งที่มีการใช้จ่ายเราจะส่งไปบอก MixPanel ด้วยว่ามีการใช้จ่ายเกิดขึ้นเท่าไหร

เจ้า MixPanel จะเชื่อมโยงให้เองว่าผู้ใช้คนไหนที่เป็นคนทำ Transaction นี้และเค้าอยู่บน Platform อะไร เข้ามาที่เว็บเราได้อย่างไร และอื่นๆ

จากนั้นเราก็จะสามารถดึงข้อมูลมา mix and match กันได้ตามใจ อย่างในตามภาพข้างต้นได้ เราลองดึงข้อมูลว่าผู้ใช้อยู่บน “Platform” ไหน โดยขอดูเฉพาะผู้ใช้ประเภท “Business” ที่มีการจ่ายเงินบนเว็บไซต์ของเราเกิน 12,000 บาท แล้วแสดงออกมาเป็นกราฟตามเวลา

ถ้าเรามีข้อมูลมากพอ MixPanel มันเรามีประโยชน์มากขึ้นมากๆ มันสามารถทำเรื่อง Engagement ได้ว่า ผู้ใช้ของเรานั้นใช้เราบน Platform อะไร เหมือนในรูปตัวอย่าง หรือลองดูว่าคนที่ไหน สนใจเรื่องอะไรบนเว็บของเราอยู่ และคนแต่ละแบบมีพฤติกรรมการจับจ่ายบนเว็บของเราต่างกันอย่างไร

MixPanel สามารถทำ Funnel Analysis ได้ว่า ผู้ใช้นั้นใช้เส้นทางไหนเดินทางกว่าจะมาถึงขั้นตอนการจ่ายเงิน หรือตรวจสอบว่าเส้นทางที่เราวางเอาไว้นั้น มีผู้ใช้ตกหล่นไประหว่างทางแค่ไหน แล้วแผนต่างๆ ที่เราวางไว้นั้นช่วยให้ตัวเลขตกหล่นนั้นดีขึ้นหรือเปล่า

ตรวจสอบ Retention เป็นส่วนที่ผมคิดว่าคนทำ App ต้องรักมันแน่ๆ เค้าบอกว่าถ้า App ไหนที่ผู้ใช้ไม่กลับมาใช้ภายในหนึ่งอาทิตย์มันจะถูกลบออกไป ตัว Retention จะช่วยบอกเราได้ว่าผู้ใช้ที่ติดตั้งโปรแกรมของเราเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาเค้ายังเหลืออยู่ที่เราแค่ไหน

retention

จากในรูปเค้าบอกว่าวันที่ 1 Sep,2014 มีผู้ใช้ที่พึ่งลงโปรแกรมของเราไปไม่ถึงอาทิตย์ แล้วยังเปิดใช้โปรแกรมของเราอยู่มี 507 คน ส่วนคนที่ลงโปรแกรมแล้วหนึ่งอาทิตย์แต่ยังไม่ถึงสองยังอยู่กับเรา 250 คน (ตรงที่เป็นจุดสีแดง)

อีกความสามารถที่น่ากลัวหน่อย ก็คือ People มันใช้ดูได้เป็นรายคนเลยว่าแต่ละคนเข้ามาใช้ยังไงบ้างตอนไหนบ้าง ทำอะไรบ้าง เท่าที่เราส่งไปให้ MixPanel

people

ปกติเราก็ส่งไปครบทุก Action ครับ จะทำอะไรก็ส่งไปหมด เราก็จะได้รู้หมดเลยว่าผู้ใช้ทำอะไรบ้าง พอเรารู้แล้วเราก็สามารถนำกลับมาวิเคราะห์ หรือเชื่อม MixPanel เข้ากับโปรแกรมของเราเพื่อทำ Personalization เช่นเลือก Menu ที่ผู้ใช้มักใช้บ่อยๆ ขึ้นมาก่อน หรือนำหมวดสินค้าที่เค้าสนใจขึ้นมาแสดงได้เลย

ความสามารถเรื่อง people จะเอามาใช้กับตัว Notifications ได้ดีมากๆ ครับ เช่นเมื่อมีนิยายตอนใหม่ออกมา เราก็ไล่ดูเลยว่ามีใครอ่านนิยายเรื่องนี้อยู่แล้วบ้างภายในระยะเวลา 1 เดือน เราก็ส่ง notification ไปให้เค้าเลยว่ามีตอนใหม่ออกมาแล้ว

แทนที่จะต้องให้ผู้ใช้เป็นคนบอกเองว่าให้ notification มาด้วย (ทำไปก่อนแล้วค่อยปิดดีกว่า ในหน้าที่พาผู้ใช้ไปก็ทำให้โปรแกรมรู้ว่ามันมาจาก auto notification แล้วให้มันขึ้นมาถามว่าต่อไปจะให้เตือนเรื่องนี้อีกหรือเปล่า)

ความสามารถสุดท้ายเป็นตัว killer เลยครับ นั่นคือตัว Mobile A/B Testing โปรแกรม MixPanel ทำตัว A/B Testing มาได้ดีมากๆ คนทำ UX ไม่ต้องไปเสียเวลาของ Development Team เลย ก็สามารถจะทำสอบข้อสงสัยได้ทันที

AB Testing

อย่างในรูปเราสามารถทดสอบได้ว่า ระหว่างคำว่า REDO กับ REPLAY อันไหนที่ผู้ใช้กดมากกว่ากัน

นอกจากความสามารถที่เขียนมาข้างต้นแล้ว มันยังทำอย่างอื่นได้อีกเยอะเลยครับ ต้องลองเข้ามาเล่นดูกันเอง แต่แน่นอนว่าของดีย่อมไม่ถูก เจ้า MixPanel ราคาแพงได้ใจอยู่ครับ เวลาเปิดใช้งานจะมาเปิดเล่นๆ แบบ GA ไม่ได้ ต้องคำนวนไว้เลยว่าจะส่งข้อมูลผู้ใช้ให้มันกี่คน ถ้าส่งเกินมันคิดตังนะครับ